วิธีป้องกันโรคหวัดได้ง่ายๆ ด้วยการออกกำลังกายเบาๆเพียง 5-15 นาที


ขึ้นชื่อว่าโรคภัยไข้เจ็บแล้วหลายคนคงไม่อยากจะพบเจอกันหรอกใช่มั้ยคะ เพราะเวลาป่วยขึ้นมาทีนึงก็จะลำบากมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวันที่ยากเย็นเพราะอาการป่วย หมดเรี่ยวหมดแรง อีกทั้งอาจต้องเสียค่าหมอค่ายาอีก และโรคยอดฮิตอีกหนึ่งโรคที่หลายคนเป็นกันได้ง่ายมากนั่นก็คือโรคหวัดนั่นเอง วันนี้เราจะมาแชร์วิธีการป้องกันโรคหวัดง่ายๆ ใช้เวลาไม่นาน แถมยังทำให้สุขภาพแข็งแรงด้วยนะ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ

ส่วนตัวเราเป็นหวัดค่อนข้างบ่อยมากค่ะ เป็นแทบจะทุกปีเลย ปีนึงก็จะเป็นประมาณ 4-5 ครั้ง เพราะการใช้ชีวิตที่นอนดึกของเรา การเดินทางไปทำงานที่แสนหนักหน่วงจนทำให้เราแทบไม่มีเวลาออกกำลังกายเลย กลับมาบ้านก็มืดค่ำแล้ว ทำให้รู้สึกว่าร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้น้อยมากๆ พอเริ่มมีอาการเจ็บคอและเหนื่อยล้ามากกว่าปกตินี่คือเตรียมตัวได้เลย นอนเร็วแค่ไหนก็ไม่รอด แต่พอเราได้ไปเจอบทความในเพจๆนึง(อยู่ท้ายเครดิต) ก็ทำให้ชีวิตเราสดใสขึ้นมากค่ะ ชีวิตเราเปลี่ยนไปหลายอย่างด้วยเนื้อหาสุขภาพของเพจนี้ค่ะ บทความนี้จะพูดถึงการป้องกันหวัดในระยะแรกเริ่ม คือเมื่อเราเริ่มรู้สึกมีอาการเจ็บคอ เหนื่อยล้าอ่อนเพลียง่าย นั่นหมายถึงอาการหวัดช่วงเริ่มต้นค่ะ ซึ่งจากบทความนี้เราได้คุณหมอโอทานิ ผู้เชี่ยวชาญระบบหายใจได้แนะนำไว้ว่า ถ้าเขาเริ่มรู้สึกจะเป็นหวัดเมื่อไหร่ เขาจะออกกำลังกายบางอย่างเป็นเวลา 5 นาทีค่ะ ซึ่งการออกกำลังที่คุณหมอโอทานิเลือกนั่นก็คือ

"การว่ายน้ำ" นั่นเองค่ะ

คุณหมอได้กล่าวไว้ว่าช่วงแรกของการเป็นหวัดถ้าได้ว่ายน้ำซัก 5 นาทีจะทำให้เซลล์ภูมิต้านทานในร่างกายกระฉับกระเฉงขึ้น ทำให้เราหายจากหวัดได้เร็วขึ้นค่ะ แต่วิธีการออกกำลังเบาๆนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเรารู้สึกว่าจะเป็นหวัดนะคะ ถ้าเริ่มมีไข้ อุณหภูมิร่างกายเกิน 38 องศา หรือเป็นไข้หวัดใหญ่ ถ้าถึงขั้นนี้แล้วไม่แนะนำให้ออกกำลังกายนะคะ

ที่คุณหมอโอทานิแนะนำให้ว่ายน้ำ 5 นาที(หรือออกกำลังกายเบาๆอื่นๆ ซึ่งจะมีบอกด้านล่างค่ะ) เพราะการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ได้ใช้ทุกส่วนของร่างกายและสามารถทำได้ในระยะเวลาสั้นๆค่ะ และการออกกำลังกายเบาๆจะช่วยทำให้เซลส์ภูมิคุ้มกันในร่างกายเราแข็งแรงขึ้น ซึ่งเจ้าเซลส์นี้เราเรียกว่าเซลส์ NK ค่ะ ในบทความนี้มีภาพจากรายการแสดงให้เห็นตัวหย่างตอนเซลส์ NK เข้าทำลายเซลส์มะเร็งในร่างกายของคนเราด้วยค่ะ อย่างที่เราทราบกันดีว่าในร่างกายของเราทุกคนนั้นมีเซลส์มะเร็งอยู่ในตัวอยู่แล้วค่ะ จากการวิจัยจะพบว่า เซลส์ NK จะลดลงตามการเพิ่มขึ้นของอายุ นั้นหมายถึงว่าหากเราอายุมากขึ้นเรื่อยๆ เซลส์ NK ก็จะลดลงและทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้นนั่นเอง และคุณหมอยังแนะนำว่าเมื่อว่ายน้ำเสร็จให้ใช้ไดร์เป่าผมให้แห้งก่อนกลับบ้านด้วยจะดีที่สุด แต่ถ้าใครไม่สะดวกว่ายน้ำ อาจจะเลือกการออกกำลังกายเบาๆเช่นการเดินซัก 15 นาที เล่นโยคะหรือยืดกล้ามเนื้อก็ได้ค่ะ

จากภาพจะเห็นเซลส์ NK กับเซลส์มะเร็ง

เซลส์ NK ได้เข้าทำลายเซลส์มะเร็ง ตู้มมม

ในส่วนของการสร้างเซลส์ NK นั้นทางรายการได้พิสูจน์ให้เห็นกันจะๆโดยการนำผู้สูงอายุทั้ง3คน อายุ 55 63 61 ที่มีเซลส์NK น้อย มาทดลองออกกำลังกายเบาๆโดยการว่ายน้ำเพียงแค่5นาที ก็พบว่าเซลส์NK เพิ่มขึ้นมาจริงๆ ทั้งๆที่ออกกำลังกายเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น

ตัวเลขสีฟ้าคือจำนวนเซลส์ NK ก่อนออกกำลังกาย ส่วนสีแดงคือหลังออกกำลังกายเพียง 5 นาทีค่ะ


สำหรับเรา เราไม่สะดวกว่ายน้ำ เราเลยเลือกเดาะบอลค่ะ เดาะบอลนะคะ ไม่ใช่เตะบอล เหมือนจะง่ายๆไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแต่ขอบอกว่าเหนื่อยเอาเรื่องค่ะ(เหนื่อยตอนเก็บลูก) ขอบอกเลยว่าเราห่างหายจากการออกกำลังกายไปนานมากกก ตอนเด็กๆเราเล่นดีฬาทุกวัน(เตะบอล)แต่พอตั้งแต่เริ่มขึ้นมหาลัยจนมาทำงานได้5ปี เราก็แทบไม่ได้ออกกำลังกายอีกเลย พอเราอ่านบทความนี้ปุ๊บ เราก็ลองทำเลยค่ะ เพราะเริ่มรู้สึกเจ็บคอและเมื่อยๆร่างกาย(แหม่ ช่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้) เราเป็นคนชอบพิสูจน์เรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ก็เลยลองซักหน่อย เดาะบอลพอให้หัวใจเต้นแรง + เหงื่อออกนิดๆ ประมาณ 15 นาที ก็กลับบ้านนั่งพักซักแปบนึงแล้วอาบน้ำอุ่นค่ะ สระผมเป่าผมเสร็จซักพักก็นอนหลับเลย ปรากฎว่าตื่นเช้าขึ้นมา เห้ย....สดชื่นขึ้น อาการเจ็บคอก็ลดลง จากที่ก่อนหน้านั้นกลืนน้ำลายทีนี่รู้สึกเหมือนมีหนามในคอ โอ้โห เห็นผลไวทันใจไม่ต้องกินยาดักกันเลยทีเดียวค่ะ

สรุปนะคะ คุณหมอโอทานิก็แนะนำให้
-ว่ายน้ำซัก 5 นาที
-หรือจะออกกำลังกายเบาๆ เช่นเดินซัก 15 นาทีก็ได้ โยคะ ยืดเส้นสาย ยืดกล้ามเนื้อ ประมาณนี้ค่ะ

อยากให้ทุกคนหันมาออกกำลังกายกันค่ะ เราก็จะเริ่มกลับมาออกกำลังกายบ้างแล้ว เพราะรู้สึกร่างกายไม่กระฉับกระเฉงเหมือนแต่ก่อนเลย ใครทำแล้วได้ผลอะไรยังไงคอมเมนต์เล่าสู่กันฟังได้นะคะ

ปล.สำหรับใครที่ไปว่ายน้ำแล้วกลัวติดหวัดจากคนอื่น ขอบอกว่าสบายใจได้เลยเพราะในน้ำมีคลอรีนฆ่าเชื้อโรคอยู่แล้วค่ะ

ปล.ได้ทำการขออนุญาตจากทางเพจแล้ว ขอขอบคุณบทความจากเพจ JapanSaralyman และคุณบูมมากๆเลยค่ะ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว Ener-g แบบขวด วิตามินแบบน้ำ อีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคนที่อ่อนเพลีย

ประสบการณ์ทำงานสตาร์บัคส์

รีวิวหมอนสุขภาพ หมอนสลบเหมือด Chowa ที่การันตีว่าหลับฝันดีไม่ปวดคอ จริงหรือไม่ มาดูกัน