กฎแรงดึงดูดของการใช้ถ้อยคำยืนยัน
มีใครเคยสังเกตความคิดของตัวเองกันไหมคะว่าคำพูดอะไรที่เราคุยกับตัวเองบ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ฉันอ้วนเกินไปแล้ว หรือ เงินทำไมมันหายากจัง เหนื่อยจังเลย ทำไมตัวเรามันห่วยแตกอย่างนี้นะ จะมีใครมารักคนที่ไม่สวยไม่หล่ออย่างเรากัน มีอยู่วันหนึ่ง เราได้ทีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่งของคุณ ลูอิส เฮย์ ค่ะ ตอนแรกเราก็คิดว่าคงเป็นหนังสือHow to ทั่วไป แต่พอได้อ่านประวัติของคนเขียนแล้วรู้สึกทึ่งกับการใช้ชีวิตของเขามากๆค่ะ สำหรับผู้หญิงอย่างเราๆนั้นการถูกทำร้ายทางด้านใจจิตโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเพศนั้นถือเป็นปมที่ร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิต ซึ่งคุณลูอิสนั้นได้ประสบตอนวัยเด็ก แต่สิ่งที่ทำให้เราทึ่งนั่นก็คือเธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคนได้อีก
สิ่งที่คุณลูอิสเน้นย้ำอยู่เสมอนั่นก็คือ ถ้อยคำที่เราใช้พูดกับตัวเอง ไม่ว่าจะเผลอพูดหรือตั้งใจพูดก็ตาม เคยไหมคะ เวลาที่เราทำอะไรเปิ่นๆ เช่น เสียงสั่นเวลาพูดต่อหน้าคนเยอะๆ เราก็จะกล่าวโทษตัวเองเช่นว่า ทำไมขี้อายแบบนี้นะ ใช้ไม่ได้เลย หรือกดดันตัวเองมากเกินไป การเลือกใช้คำพูด การเลือกใช้ถ้อยคำยืนยันนั้นสำคัญมากๆเลยนะคะ มันไม่ใช่แค่ว่าพูดสิ่งดีๆกับตัวเองแล้วก็พอแค่นั้น แต่ยังต้องรู้สึกถึงมันอีกด้วย วันนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการใช้ถ้อยคำยืนยันที่ถูกต้องกันค่ะ
บางทีเราอาจจะเห็นในหนังสือหลายร้อยเล่มว่าเราควรจะยืนยันแบบไหน เช่น หากอยากรวย ก็คิดว่า ฉันรวย ฉันมีเงินใช้เหลือเฟือ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นแค่ไกด์ไลน์ค่ะ เพราะบางทีอ่านของคนอื่นแล้วเราไม่อิน ไม่ตื่นเต้น ในความคิดเรา ถ้อยคำยืนยันที่จะเหมาะสมกับตัวเราและสร้างอารมณ์ความรู้สึกให้เรามากที่สุด ก็ต้องเกิดจากถ้อยคำที่เราคิดขึ้นเองค่ะ เพราะงั้น เริ่มจากการถามตัวเองก่อนเลย อะไรที่เราอยากเปลี่ยน อะไรที่เราต้องการจริงๆ ฟังเสียงหัวใจตัวเองค่ะ
หากเรากังวลใจ หรือคอยคิดอยู่เสมอว่า การใช้ถ้อยคำยืนยันมันไม่ได้ผล ก็นั่นยังไงละ! มันก็ยืนยันในตัวของมันเองแล้วนี่นา ไม่ว่าจะเป็นการบ่น หรือโกรธ หรืออะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกไม่ดี นั่นเปรียบเสมือนเป็นการยืนยันทั้งหมด เพราะฉะนั้น
จงคิดในสิ่งที่ทำให้มีความสุขซะ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ใช้ภาษาที่คุ้นชินและรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับมันมากที่สุด
ควรปล่อยวางจากความคิดเก่าๆ ช่วงแรกๆที่เราสำรวจความคิดตัวเอง อาจจะน่าตกใจไม่น้อยว่าทำไมความคิดลบเยอะจัง แต่ไม่เป็นไรค่ะ อย่ากดดันตัวเอง ค่อยๆปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ด้านสุขภาพ
จริงๆแล้วร่างกายคนเราเป็นสิ่งมหัศจรรย์นะคะ มันรู้ว่าจะต้องรักษาตัวเองอย่างไร มีเพียงบางสิ่งที่เราต้องไม่ทำเลยนั่นก็คือ เราต้องไม่โกรธร่างกายตัวเองค่ะ ลองนึกสภาพเครื่องจักรตัวนึงที่พยายามทำงานอย่างหนักเพื่อให้เราได้ใช้ประโยชน์จากมันสิคะ ไม่โกรธ ไม่บ่น แสดงความรู้สึกรักและประทับใจในร่างกายเรา ขอบคุณร่างกายของเรา อาหาร อากาศ อารมณ์ เป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ ความเจ็บป่วยบางทีก็เป็นเหมือนกระจกเงาสะท้อนความคิดและความเชื่อที่อยู่ในตัวเราค่ะ เพราะงั้น...ลองเงียบ และตั้งใจฟังสิ่งที่ร่างกายเรากำลังจะบอกดูนะคะ
ความเจริญมั่งคั่ง
อย่าได้บ่นหรือพูดบ่อยๆว่าเงินไม่พอใช้ หรือขาดแคลนเงินนะคะ ไม่ว่าจะพูดจริงหรือพูดเล่นๆก็ตาม และที่สำคัญ เราควรซื่อสัตย์กับตัวเอง ไม่ควรเอาของๆคนอื่นนะคะ เพราะทุกอย่าง ไม่ว่าอะไรที่เราทำลงไป มันจะย้อนหวนคืนกลับมาหาตัวเราอย่างแน่นอน เคยไหมคะ แอบหยิบของเล็กๆน้อยๆของเพื่อน หรือที่ทำงานกลับบ้าน หรือแอบอู้งาน(ขโมยเวลา) เพราะงั้น เปลี่ยนความคิดซะใหม่ ยืนยันกับตัวเองใหม่นะคะ
ความสัมพันธ์
หลายคนพอเห็นคนอื่นมีแฟน ก็อาจจะเริ่มคิดบ้างว่า อืมม ถ้าเรามีคนที่รักเราแบบนั้นซักคนก็คงจะดีเนอะ ชีวิตเราคงมีความสุขกว่านี้ นั่นยังไงละ เราหวังให้คนอื่นมาสร้างความสุขให้เรา นั่นแสดงว่าตัวเรายังไม่สามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเอง เราต้องเริ่มจากการรักตัวเองก่อนค่ะ รักแบบรักจริงๆนะ ไม่ใช่เฟคว่ารักนะ บอกรักตัวเองทุกวัน บอกกับตัวเองว่าเราสวยมากแค่ไหน ข้อดีที่มีในตัว ยกขึ้นมาชมให้หมด พูดกับตัวเองหน้ากระจกไปเลย ฉันรักตัวฉันในแบบนี้ ทำตัวเองให้มีความสุข เมื่อเรามีความสุขกับตัวเองแล้ว เมื่อนั้น เราจะรู้สึกเต็ม สงบ และปลอดภัย และเมื่อเราชัดเจนกับตัวเองแล้ว ก็ให้พาตัวเราออกไปพบปะผู้คนใหม่ๆ และเมื่อนั้นแหละ ที่ตัวเราจะเป็นแม่เหบ็กดึงดูดคนที่ใช่เข้ามา
การนับถือตัวเอง
ไม่มีใครสามารถควบคุมความคิดของเราได้นอกจากตัวเราเองใช่ไหมคะ แล้วทำไมเราต้องเลือกที่จะใช้ความคิดตัวเองดูถูกตัวเองอยู่ตลอดเวลาด้วยละ พูดไปเลยหน้ากระจก เราเป็นคนสวย เป็นคนมั่นใจในตัวเอง มองตัวเองในกระจกดูสิ จดจำรายละเอียดไว้ ขุดขึ้นมาให้หมด ความดีที่เคยทำ สิ่งที่เคยภูมิใจ เห็นสวยๆแบบนี้ ยังเคยสอบได้อันดับหนึ่งของโรงเรียนนะ แถมเคยไปช่วยลูกหมาที่เกือบจมน้ำในวันที่ฝนตกหนักตอนนั้นด้วย อ้อ ยังมีอีก เคยไปช่วยป้าคนนึงถือของหนักมาก แถมยังเคยช่วยคนตาบอดเดินข้ามถนนอีก อ้อ ยังมีอีกนะ ช่วยคนแก่เดินลงบันได้ข้ามสะพานด้วย อื้อหืมมม นี่ตัวเราทำไมเป็นคนดีแบบนี้เนี่ย ชมไปเลยยย
ลองทำดูนะคะ มันอาจจะดูเว่อร์ๆไปหน่อย แต่ถ้ามันทำให้เรารู้สึกดีขึ้น มีความสุข ก็ทำไปเลย ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน อาจจะอายตัวเองในตอนแรกๆที่ทำ แต่ถ้ามันจะเปลี่ยนชีวิตเราได้ ความอายแค่นี้ ชิลๆเนอะ 55555 ลองทำแล้วเป็นยังไง เปลี่ยนแปลงบ้างไหม อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
แล้วเราจะก้าวไปด้วยกันค่ะ มาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปด้วยกันนะคะ
สิ่งที่คุณลูอิสเน้นย้ำอยู่เสมอนั่นก็คือ ถ้อยคำที่เราใช้พูดกับตัวเอง ไม่ว่าจะเผลอพูดหรือตั้งใจพูดก็ตาม เคยไหมคะ เวลาที่เราทำอะไรเปิ่นๆ เช่น เสียงสั่นเวลาพูดต่อหน้าคนเยอะๆ เราก็จะกล่าวโทษตัวเองเช่นว่า ทำไมขี้อายแบบนี้นะ ใช้ไม่ได้เลย หรือกดดันตัวเองมากเกินไป การเลือกใช้คำพูด การเลือกใช้ถ้อยคำยืนยันนั้นสำคัญมากๆเลยนะคะ มันไม่ใช่แค่ว่าพูดสิ่งดีๆกับตัวเองแล้วก็พอแค่นั้น แต่ยังต้องรู้สึกถึงมันอีกด้วย วันนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการใช้ถ้อยคำยืนยันที่ถูกต้องกันค่ะ
บางทีเราอาจจะเห็นในหนังสือหลายร้อยเล่มว่าเราควรจะยืนยันแบบไหน เช่น หากอยากรวย ก็คิดว่า ฉันรวย ฉันมีเงินใช้เหลือเฟือ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นแค่ไกด์ไลน์ค่ะ เพราะบางทีอ่านของคนอื่นแล้วเราไม่อิน ไม่ตื่นเต้น ในความคิดเรา ถ้อยคำยืนยันที่จะเหมาะสมกับตัวเราและสร้างอารมณ์ความรู้สึกให้เรามากที่สุด ก็ต้องเกิดจากถ้อยคำที่เราคิดขึ้นเองค่ะ เพราะงั้น เริ่มจากการถามตัวเองก่อนเลย อะไรที่เราอยากเปลี่ยน อะไรที่เราต้องการจริงๆ ฟังเสียงหัวใจตัวเองค่ะ
หากเรากังวลใจ หรือคอยคิดอยู่เสมอว่า การใช้ถ้อยคำยืนยันมันไม่ได้ผล ก็นั่นยังไงละ! มันก็ยืนยันในตัวของมันเองแล้วนี่นา ไม่ว่าจะเป็นการบ่น หรือโกรธ หรืออะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกไม่ดี นั่นเปรียบเสมือนเป็นการยืนยันทั้งหมด เพราะฉะนั้น
จงคิดในสิ่งที่ทำให้มีความสุขซะ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ใช้ภาษาที่คุ้นชินและรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับมันมากที่สุด
และควรคิด พูดให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาล
หากคุณป่วยอยู่ อย่าได้พูดว่า ฉันอยากจะหายป่วย ฉันไม่อยากจะป่วย แต่ให้พูดว่า สุขภาพร่างกายของฉันแข็งแรงมากๆ ฉันพร้อมที่จะรับความแข็งแรง ความสมบูรณ์ของร่างกาย ณ บัดนี้แล้วควรปล่อยวางจากความคิดเก่าๆ ช่วงแรกๆที่เราสำรวจความคิดตัวเอง อาจจะน่าตกใจไม่น้อยว่าทำไมความคิดลบเยอะจัง แต่ไม่เป็นไรค่ะ อย่ากดดันตัวเอง ค่อยๆปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ด้านสุขภาพ
จริงๆแล้วร่างกายคนเราเป็นสิ่งมหัศจรรย์นะคะ มันรู้ว่าจะต้องรักษาตัวเองอย่างไร มีเพียงบางสิ่งที่เราต้องไม่ทำเลยนั่นก็คือ เราต้องไม่โกรธร่างกายตัวเองค่ะ ลองนึกสภาพเครื่องจักรตัวนึงที่พยายามทำงานอย่างหนักเพื่อให้เราได้ใช้ประโยชน์จากมันสิคะ ไม่โกรธ ไม่บ่น แสดงความรู้สึกรักและประทับใจในร่างกายเรา ขอบคุณร่างกายของเรา อาหาร อากาศ อารมณ์ เป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ ความเจ็บป่วยบางทีก็เป็นเหมือนกระจกเงาสะท้อนความคิดและความเชื่อที่อยู่ในตัวเราค่ะ เพราะงั้น...ลองเงียบ และตั้งใจฟังสิ่งที่ร่างกายเรากำลังจะบอกดูนะคะ
ความเจริญมั่งคั่ง
อย่าได้บ่นหรือพูดบ่อยๆว่าเงินไม่พอใช้ หรือขาดแคลนเงินนะคะ ไม่ว่าจะพูดจริงหรือพูดเล่นๆก็ตาม และที่สำคัญ เราควรซื่อสัตย์กับตัวเอง ไม่ควรเอาของๆคนอื่นนะคะ เพราะทุกอย่าง ไม่ว่าอะไรที่เราทำลงไป มันจะย้อนหวนคืนกลับมาหาตัวเราอย่างแน่นอน เคยไหมคะ แอบหยิบของเล็กๆน้อยๆของเพื่อน หรือที่ทำงานกลับบ้าน หรือแอบอู้งาน(ขโมยเวลา) เพราะงั้น เปลี่ยนความคิดซะใหม่ ยืนยันกับตัวเองใหม่นะคะ
ความสัมพันธ์
หลายคนพอเห็นคนอื่นมีแฟน ก็อาจจะเริ่มคิดบ้างว่า อืมม ถ้าเรามีคนที่รักเราแบบนั้นซักคนก็คงจะดีเนอะ ชีวิตเราคงมีความสุขกว่านี้ นั่นยังไงละ เราหวังให้คนอื่นมาสร้างความสุขให้เรา นั่นแสดงว่าตัวเรายังไม่สามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเอง เราต้องเริ่มจากการรักตัวเองก่อนค่ะ รักแบบรักจริงๆนะ ไม่ใช่เฟคว่ารักนะ บอกรักตัวเองทุกวัน บอกกับตัวเองว่าเราสวยมากแค่ไหน ข้อดีที่มีในตัว ยกขึ้นมาชมให้หมด พูดกับตัวเองหน้ากระจกไปเลย ฉันรักตัวฉันในแบบนี้ ทำตัวเองให้มีความสุข เมื่อเรามีความสุขกับตัวเองแล้ว เมื่อนั้น เราจะรู้สึกเต็ม สงบ และปลอดภัย และเมื่อเราชัดเจนกับตัวเองแล้ว ก็ให้พาตัวเราออกไปพบปะผู้คนใหม่ๆ และเมื่อนั้นแหละ ที่ตัวเราจะเป็นแม่เหบ็กดึงดูดคนที่ใช่เข้ามา
การนับถือตัวเอง
ไม่มีใครสามารถควบคุมความคิดของเราได้นอกจากตัวเราเองใช่ไหมคะ แล้วทำไมเราต้องเลือกที่จะใช้ความคิดตัวเองดูถูกตัวเองอยู่ตลอดเวลาด้วยละ พูดไปเลยหน้ากระจก เราเป็นคนสวย เป็นคนมั่นใจในตัวเอง มองตัวเองในกระจกดูสิ จดจำรายละเอียดไว้ ขุดขึ้นมาให้หมด ความดีที่เคยทำ สิ่งที่เคยภูมิใจ เห็นสวยๆแบบนี้ ยังเคยสอบได้อันดับหนึ่งของโรงเรียนนะ แถมเคยไปช่วยลูกหมาที่เกือบจมน้ำในวันที่ฝนตกหนักตอนนั้นด้วย อ้อ ยังมีอีก เคยไปช่วยป้าคนนึงถือของหนักมาก แถมยังเคยช่วยคนตาบอดเดินข้ามถนนอีก อ้อ ยังมีอีกนะ ช่วยคนแก่เดินลงบันได้ข้ามสะพานด้วย อื้อหืมมม นี่ตัวเราทำไมเป็นคนดีแบบนี้เนี่ย ชมไปเลยยย
ลองทำดูนะคะ มันอาจจะดูเว่อร์ๆไปหน่อย แต่ถ้ามันทำให้เรารู้สึกดีขึ้น มีความสุข ก็ทำไปเลย ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน อาจจะอายตัวเองในตอนแรกๆที่ทำ แต่ถ้ามันจะเปลี่ยนชีวิตเราได้ ความอายแค่นี้ ชิลๆเนอะ 55555 ลองทำแล้วเป็นยังไง เปลี่ยนแปลงบ้างไหม อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
แล้วเราจะก้าวไปด้วยกันค่ะ มาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปด้วยกันนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น