โรคอัลไซเมอร์ ภัยเงียบที่สามารถป้องกันได้


เอ....ทำไมช่วงนี้ขี้ลืมง่ายจัง วางของไว้แป๊บเดียวหันมาอีกทีนึกไม่ออกแล้วว่าวางของไว้ไหน จะเป็นอัลไซเมอร์รึเปล่าเนี่ย ใจเย็นๆนะคะเพื่อนๆ อย่าเพิ่งกังวลกันไป เพราะวันนี้เรามีวิธีการป้องกันอัลไซเมอร์มาฝากกันค่ะ เป็นวิธีง่ายๆ ซึ่งอยากให้ทุกๆคนได้รู้ค่ะ จะได้นำไปใช้ทั้งกับตัวเองและคนใกล้ชิดค่ะ

                                      ขี้ลืมง่าย

เพื่อนๆรู้ไหมคะว่าโรคอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้นเนี่ยสามารถรักษาได้อยู่นะคะ อย่างน้อยๆก็ตั้ง90%กันเลยทีเดียว บทความนี้เราได้อ่านมาจากเพจคุณบูม Japansalaryman มาอีกแล้วค่ะ เพจนี้นี่ต้องขอบอกเลยว่ามีข้อมูลดีๆมีประโยชน์เยอะจริงๆ เราอ่านแล้วก็เลยอยากจะเก็บไว้ในคลังบล็อกของเราเพราะเป็นเนื้อหาที่บางทีต้องนำกลับมาอ่านซ้ำ แต่บางทีเราไปค้นในเพจบางทีเรื่องๆนั้นก็หายไปแล้ว เลยอยากสรุปเก็บไว้อ่านเองและแบ่งปันเพื่อนๆไปด้วยค่ะ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ


วิธีป้องกันโรคอัลไซเมอร์นี้ได้มาจาก ดร.Dale Bredeson จากการที่ดร.ได้ไปออกรายการ Sekai Ichi Uketai Jugyo ค่ะ ซึ่งวิธีการต่างๆนั้นง่ายมาก เรียกได้ว่าแทรกซึมในการใช้ชีวิตประจำวันกันเลย มีดังนี้ค่ะ

1.ให้ตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวันค่ะ อย่างถ้าตื่น7โมง ก็ให้ตื่น7โมงทุกวัน และที่สำคัญควรนอนไม่ต่ำกว่า7-8ชั่วโมงต่อคืนค่ะ

2.เมื่อตื่นแล้วควรพาร่างกายไปรับแสงแดดยามเช้าค่ะ อาจจะเปิดม่านรับแสงแดดก็ได้ค่ะ วิตามินD ที่เราได้จากแสงแดดจะช่วยป้องกันอัลไซเมอร์ได้ค่ะ และควรอาบแสงแดดยามเช้ามากกว่า3นาทีขึ้นไปนะคะ(ในกรณีนี้ถ้าเป็นคนตื่นสาย เราว่าแสงแดดตอนกลางวันไม่ค่อยเหมาะกับการอาบแดดเท่าไหร่ เพราะงั้นเรามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนเรากันใหม่ดีกว่าเนอะะ)

3.เมื่อตื่นนอนแล้ว อาบแสงแดดยามเช้าแล้ว ให้ลองกลั้วคอด้วยน้ำชาเขียวค่ะ ที่ต้องเป็นชาเขียวเพราะในชาเขียวนั้นมีสารคาเทซิน ซึ่งสารตัวนี้จะช่วยป้องกันการสะสมตัวของเบต้า อะไมลอยด์ ซึ่งเป็นตัวการหลักที่ทำให้เป็นอัลไซเมอร์ค่ะ

4.เขียนไดอารี่ทุกวัน แนะนำให้เขียนก่อนนอนค่ะ เพราะเราจะได้ใช้สมองในการทบทวนเรื่องราวต่างๆที่เราเจอมาในแต่ละวัน ถือเป็นการกระตุ้นสมองให้ฝึกคิดทบทวนไปด้วยค่ะ

5.เวลาแปรงฟัน ควรใช้ทั้งสองมือในการจับแปรงค่ะ อาจจะคิดภาพไม่ออก คือปกติเราจับแปรงด้วยมือข้างไหน เช่นปกติจับแปรงด้วยมือขวา ก็อาจจะถือแปรงมือขวาแล้วแปรงไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นก็สลับเป็นใช้มือซ้ายจับแปรงแล้วแปรงฟันต่อค่ะ สลับมือไปเรื่อยๆ

6.แนะนำให้ทานของหมักดองค่ะ เพราะของหมักดองพวกนี้จะไปช่วยเุิ่มการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ ส่งผลให้สารอาหารถูกส่งไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ซึ่งข้อนี้เราอเมซิ่งมากเพราะในำทยเราจะถูกฝังฟัวมาตลอดว่าของหมักดองนั้นอันตราย แต่สำหรับคนญี่ปุ่นของหมักดองเขาจะเป็นพวก โชยุ มิโซะ กิมจิ นัตโต(ถั่วเน่า) ค่ะ เราว่าที่ของหมักดองบ้านเราอันตรายนั้นอาจเป็นเพราะบ้านเราใส่สารเติมแต่งเยอะไป อย่างเช่นผลไม้หมักดองบ้านเราก็ชอบแอบใส่ขัณฑสกร หรือใส่สารปรุงแต่งเพิ่มเยอะไปเลยดูอันตรายค่ะ เพราะงัเนถ้าจะกินของหมักดอง ต้องดูดีๆนะคะ หรือทานแบบญี่ปุ่นไปเลยก็ได้ อร่อยด้วยค่ะ

7. แนะนำให้ทานปลาหลังเขียวน้ำเงิน เช่นซาร์ดีน ซาบะ เพราะปลาเหล่านี้DHA เยอะมาก ถ้าให้ดีพยายามทานให้ได้อาทิตย์ละสองครั้งค่ะ

8.แนะนำให้ทานถั่วถ้าหิวระหว่างวัน เพราะถั่วมีสารที่ช่วยเพิ่มความจำค่ะ และเวลาทานถั่วน้ำตาลในเลือดก็ไม่ค่อยขึ้นด้วย จะเป็นถั่วอะไรก็ได้ค่ะ ถั่วแระ ถั่วลิสงก็ได้(แต่ถ้าใครแพ้ถั่วห้ามกินนะคะ) และพยายามเลี่ยงอาหารที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง อย่างของญี่ปุ่นก็จะเป็นพวกแกงกะหรี่ ราเมน ค่ะ(โห ของชอบเราทั้งนั้นเลยอะ)

9.งดแอลกอฮอล์ค่ะ หรือถ้าอยากทานให้ทานเป็นไวน์แดงแทน เพราะไวน์แดงมีโพริเฟนอลซึ่งช่วยเพิ่มการรับรู้ของสมองค่ะ

10. ทานผักที่ดีต่อสมอง 3 ชนิด คือหัวไชเท้า ผักมีใบ และมันเทศ



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว Ener-g แบบขวด วิตามินแบบน้ำ อีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคนที่อ่อนเพลีย

ประสบการณ์ทำงานสตาร์บัคส์

รีวิวหมอนสุขภาพ หมอนสลบเหมือด Chowa ที่การันตีว่าหลับฝันดีไม่ปวดคอ จริงหรือไม่ มาดูกัน