Criminal Minds ซีรีส์ฝรั่งแนวจิตวิทยาสืบสวนที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง


ตั้งแต่ช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา ด้วยความที่วันหยุดมีหลายวันมากแถมจะให้ออกไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้เพราะCovid19 เพื่อนเก่าแก่สมัยปี2019ที่ยังคงตามมาหลอกหลอนจนถึงตอนนี้ เลยมีโอกาสได้ไปขุดชื่อซีรีส์เก่าๆมาดูกันค่ะ สำหรับซีรีส์ชุดนี้ ถึงเป็นเรื่องที่เราชอบมากที่สุดเรื่องนึงเลย คือต่อให้ดูซ้ำก็ยังสนุกอยู่ดี แถมมีหลากหลายซีซั่นให้ติดตาม ถึงแม้ว่า Series นี้ จะมีการถ่ายทำมาหลายปี(ตั้งแต่ปี2005แน่ะคุณพี่ขา) แต่เทคโนโลยีการสืบสวนที่หนังใช้ในการถ่ายทำ ทำให้เราไม่รู้สึกว่ามันเก่าเลยแม้จะเพิ่งมาดูในปี2021


ขอเกริ่นก่อนเลยว่าเรารู้จักซีรีส์เรื่องนี้เพราะทีวีเคเบิ้ลค่ะ ตอนนั้นทีวีบ้านเรามีช่อง Universal เขาจะเอาหนังมาฉายบ่อย เช่น Law and Order อันนี้ก็สนุกมาก โดยเฉพาะภาค SVU แต่ซีรีส์จะเน้นไปที่เรื่องการเอาผิดทางกฎหมายกับฆาตรกรมากกว่าการกระบวนการตามจับกุมคนร้าย แต่สำหรับเรา Criminal Minds เหมือนซีรีส์สะท้อนสังคมไปในตัว คดีแต่ละคดีดูมีปม มีเหตุมีผล แต่บางคดีก็ทำให้เราร้องโอ้โหได้เหมือนกัน อารมณ์แบบว่า เห้ย...ที่คนร้ายไล่ฆ่าคนตายไปหลายคนเนี่ย มันมีเหตุผลแบบนี้ด้วยเหรอ อะไรแบบนี้ คือหนังจะสะท้อนอะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงในครอบครัว ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การเสียดสีสังคม ความเชื่อที่ฝังรากลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่นำไปสู่การฆาตรกรรม เหตุการณ์ที่สะเทือนใจในวัยเด็กส่งผลให้เป็นแรงขับเคลื่อนในการก่อเหตุฆาตรกรรม โรคหลากหลายทางบุคลิก  ฯลฯ การไล่ล่าจับตัวฆาตรกรในหนังส่วนใหญ่จะต้องใช้หลักทางจิตวิทยามาช่วยในการสืบสวน ทำให้เหมือนเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับจิตใจของมนุษย์ไปในตัว ซึ่งเรื่องจิตใจมนุษย์นี่บางทีก็ซับซ้อน แต่เพราะความซับซ้อนของมันนี่แหละค่ะ ถึงทำให้ตัวหนังน่าสนใจและน่าติดตาม หนังจะไม่เน้นบู๊ต่อยเตะคนร้าย แต่จะเน้นหลักการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ การทำงานเป็นทีม และหนังก็จะสอนให้สังเกตลักษณะคนประเภทต่างๆผ่านตัวละครในทีมFBI  เช่นภาวะอาการทางจิตต่างๆที่จะมีอาการอย่างไร บางคนดูเหมือนคนทั่วๆไปแต่ถ้าเราสังเกตจากสายตาของเขา อากัปกิริยาของเขา ก็จะรู้ถึงความอันตราย คือดูแต่ละตอนแล้วเรารู้สึกว้าวทุกตอนเลย ยิ่งตอนเฉลยปมว่าเพราะอะไรฆาตรกรถึงต้องทำแบบนี้ มีเหตุผลอะไร อะไรเป็นตัวจับเคลื่อนให้เขาต้องลงมือทำ คือทีมสืบสวนวิเคราะห์ได้แบบเรียลมาก ตัวละครทุกตัวมีมิติ แม้กระทั่งฆาตรกรหรือเหยื่อ บางคดีถึงกับทำให้น้องไห้เพราะสงสารอดีตของฆาตรกรก็มีค่ะ และอีกสิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าติดตามคือตัวละครทุกตัวที่อยู่ทีมFBI ล้วนมีประวัติทุกคน ไม่เชิงว่าประวัติที่ไม่ดีนะ แต่แยบ เหมือนตัวละครแต่ละตัวจะมีอดีต ซึ่งถ้าเราชอบตัวละครตัวไหนก็ตาม พอมีตอนที่เกี่ยวข้องกับอดีตของตัวละครเราแลเวก็เหมือนทำให้เราได้รู้จักเขามากขึ้น เหมือนได้ใกล้ชิดขึ้น และรู้สึกผูกพันกับตัวละครในเรื่องไปโดยปริยาย ขอบอกว่าหนังเรื่องนี้โลกไม่สวย มีฉากบีบคันหัวใจหลายฉาก บางฉากนี่บีบจนเราร้องไห้น้ำตาหยดไปหลายหยดเลยเพราะสงสาร ผูกพันแค่ไหนคิดดู 55555555

ถ้าจะเริ่มดูแนะนำเคลียร์เวลานิดนึงเพราะอาจจะทำให้ติดมาก เราเคยดูแบบขาดตอนไปเมื่อนานมาแล้ว แต่ชื่อหนังมันติดในหัวเอาไม่ออก ตอนนี้เราไปดูไปจนถึงSS4 แล้ว เสียน้ำตาให้หลายตอนเหมือนกัน เพราะตัวละครบางตัวมีย้ายเข้าย้ายออก บางคนก็ลาออกจากทีมไปเลย บางคนมาใหม่เราเริ่มจะผูกพันละ เอ้าาาา ออกจากทีมเฉย ไรงี้ ใดๆตอนนี้คือเทใจให้สเปนเซอร์ รี้ด คือดีย์มากกก เป็นผู้ชายเนิร์ดที่มีความกุ๊กกิ๊กกะริ๊กกิ๊กน่าเอ็นดูสุดติ่งกระดิ่งหูแมวว แม่คะะ หนูอยากได้คนนี้ หนูจะเอาคนนี้อ้ะะะะ(เอ๊...อินี่ อะไรของมัน อยู่ดีๆมาบอกอยากได้ผู้ชายกลางสาธารณะชนได้ยังไงเนี่ย 5555555)

ใครคอสืบสวนสอบสวนแนวจิตวิทยา แนะนำให้ดูเลยจริงๆ คือหนังดีมาก ส่วนใหญ่จบในตอน แต่ก็จะมีบางคดีที่ยาวหน่อย ลากไปสามสี่ตอนกว่าจะจบงี้ แต่ใดๆเลยคืออยากให้ดูค่ะ บางทีดูแล้วอาจจะทำให้เราหันมาสังเกตคนรอบตัวเรามากขึ้นก็ได้ เพราะอันตรายอาจมีอยู่ทุกที่ แม้กระทั่งในบ้านของเราเองค่ะ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว Ener-g แบบขวด วิตามินแบบน้ำ อีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคนที่อ่อนเพลีย

ประสบการณ์ทำงานสตาร์บัคส์

รีวิวหมอนสุขภาพ หมอนสลบเหมือด Chowa ที่การันตีว่าหลับฝันดีไม่ปวดคอ จริงหรือไม่ มาดูกัน