รีวิวผลการรักษาช็อกโกแลตซีสต์ ฉีดยาคุมDMPAมีอาการยังไง แล้วถ้าหยุดฉีดจะเป็นอย่างไร


จากบทก่อนหน้านี้ที่เราเคยรีวิวการตรวจภายในและเราได้เจอซีสต์ในรังไข่ ทำให้เราต้องทำการรักษาโดยการฉีดยาคุมเพื่อหยุดการโตของช็อกโกแลตซีสต์ หลายคนอาจจะสงสัยว่าการรักษาช็อกโกแลตซีสต์เนี่ย ค่ารักษามันแพงมั้ย แล้วต้องรักษายังไง ถ้าเป็นช็อกโกแลตซีสต์แล้วจะมีอาการยังไง มาค่ะ บทนี้เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟัง

หากใครยังไม่เคยอ่านบทความเก่าๆ สามารถจิ้มได้ที่นี่เลยค่ะ 


ขอเกริ่นมาจากบทเก่าก่อนว่าที่เราตัดสินใจไปตรวจเพราะเราปวดท้องประจำเดือนค่อนข้างหนักค่ะ มีทั้งปวดท้องน้อย และปวดหน่วง(ผู้หญิงด้วยกันจะเข้าใจ) ตอนช่วงที่เราเป็นช็อกโกแลตซีสต์ เราได้ทำการรักษาโดยการฉีดยาคุมDMPA ค่ะ ซึ่งยาคุมDMPA เนี่ยมันจะเป็นเหมือนสารเคมีที่คล้ายฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน ค่ะ เอาเป็นว่าเราจะขอข้ามพวกคุณสมบัติของตัวยาคุม DMPA ไปนะคะ เพราะคิดว่าเพื่อนๆหลายๆคนน่าจะหาอ่านได้ไม่ยาก อาจจะมีคำถามขึ้นมาว่า มันจำเป็นต้องฉีดจริงๆเหรอ ใช้วิธีทานยาคุมแทนไม่ได้เหรอ อันนี้คือคุณหมอบอกเรามาว่าด้วยความที่เรามีก้อนเนื้อในเต้านม (ซึ่งเราตรวจติดตามมาเกินสิบปี ไม่มีการโตขึ้น คุณหมอเลยสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นแค่เนื้องอกธรรมดา แต่ด้วยความที่ก้อนมันเล็กมาก ขนาดแค่1ซม. คุณหมอเลยใช้วิธีติดตามอาการแทนที่จะผ่าออกค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่าการผ่าตัดมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า ด้วยขนาดก้อนที่เล็กและไม่มีการโตขึ้น แต่ถ้าผ่าตัดอาจมีความเสี่ยงไปตัดโดนเส้นประสาท และทำให้เจ็บตัวโดยไม่จำเป็นค่ะ) การทานยาคุมอาจส่งผลให้ก้อนเนื้อในเต้านมโตขึ้นได้ค่ะ คุณหมอเลยต้องเลือกชนิดยาคุมให้ทานซึ่งเราได้ตัว Lynestrenol มา ซึ่งตัวนี้จะมีความเสี่ยงต่อก้อนเนื้อเต้านมน้อยสุด แต่พอทานไปแล้วเราดันแพ้ค่ะ คือผื่นขึ้นเต็มตัวเลย แล้วก็คันมากๆ หมอเลยต้องเปลี่ยนมาให้ฉีดDMPAแทนค่ะ


เราจะรีวิวทั้งหมด 3 ช่วงนะคะ คือช่วงระหว่างฉีด ช่วงหยุดฉีด และช่วงที่ร่างกายเริ่มปรับตัว

1.ช่วงระหว่างฉีด
การฉีด DMPA ของเราจะฉีดทุกๆ 3 เดือนค่ะ เราฉีดมาทั้งหมดปีครึ่งค่ะ(6เข็ม) แล้วต้องขอหมอหยุดเพราะเราไม่ไหวกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นแล้วอึดอัดมาก โดยช่วงแรกๆที่เราฉีดคือมีอาการตามนี้เลยค่ะ

-ประจำเดือนไหลน้อย แต่ไหลแบบกะปริดกะปรอยแทบทุกวัน
-ผิวพรรณดูหมองลง(อันนี้คนทักบ่อยว่าทำไมหน้าตาดูหมองคล้ำ)
-น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เรียกได้ว่าแทบจะขึ้นมาทุกเดือนค่ะ จาก58 ไปตันที่65 และไม่เพิ่มอีกแแต่ก็ไม่ลดเช่นกันต่อให้ออกกำลังมากแค่ไหน หรือลดการทานแค่ไหนก็ตาม

ของเราที่ฉีด 3 เดือนครั้งนี่คือหลายคนอาจจะคิดว่าดีจัง งี้ก็ไม่เป็นประจำเดือนเลยน่ะสิ ขอบอกว่ามันไม่ได้สบายขนาดนั้นค่ะ คือจะบอกว่าช่วงฉีดนี่เป็นอะไรที่ทรมาณมากค่ะ คือมันไหลแบบกะปริดกะปรอย เลยทำให้ต้องใส่ผ้าอนามัยแทบทุกวัน พอฉีดไปซักปีนั่นแหละ ประจำเดือนถึงจะเริ่มน้อยลง บางวันก็ไม่มีเลย แต่ก็ยังมีออกมานิดๆหน่อยแต่ไม่ถึงกับต้องใส่ผ้าอนามัยแล้วค่ะ สำหรับใครที่กังวลเรื่องฝ้า สิว ผมร่วง สำหรับเราเราไม่มีอาการเหล่านี้เลยค่ะ หน้าไร้สิว(แต่ต้องแลกกับการที่หน้าตาดูหมองลง)

2.ช่วงหยุดฉีด
พอฉีดมาได้ปีครึ่งเราขอคุยกับหมอเลยค่ะว่าเราไม่ไหวแล้ว คือมันอึดอัดไปหมดเลยค่ะ มันแน่นตัว เหนื่อยง่าย(เพราะอ้วนขึ้น) ไขมันเผาผลาญยากมากค่ะ โดยเฉพาะหน้าท้อง ต้นขา ก้น นี่คือบึบบับมาก และประจำเดือนที่กะปริดกะปรอย ไหลบ้างไม่ไหลบ้าง คือเดาวันยากมากค่ะเวลาจะไปเที่ยว คือถึงแม้มันจะไหลแบบน้อยมากกว่าตาม แต่เวลาไปเที่ยวเราจะไม่กล้าลงน้ำเลย ซึ่งพอหยุดฉีดเท่านั้นแหละค่ะ ผลลัพธ์ผิดคาด จากที่เคยไหลกะปริดกะปรอย พอผ่านมาได้ซัก1เดือนหลังจากหยุดฉีด คราวนี้เลยกลายเป็นหายไปเลย คือประจำเดือนไม่มาเลยค่ะ ไม่มีซักหยด เรากลายเป็นผู้ชายมีหน้าอกไปซะแล้วว(คือไม่มีประจำเดือนเลย) แต่ช่วงตอนนี้ในเรื่องน้ำหนักก็ยังเท่าเดิมไม่ลดลง สิวก็ยังไม่ขึ้นมาค่ะ หน้ายังใสกิ๊กอยู่ แต่ไร้สิวแบบหน้าหมองๆนะคะ

3.ช่วงร่างกายเริ่มปรับตัว
มาถึงช่วงเวลาที่เราตื่นเต้นที่สุดแล้วค่ะ ด้วยความที่หลังจากหยุดฉีด ประจำเดือนเราไม่มาเลยเกือบจะหกเดือนเต็ม(เราหยุดฉีดตั้งแต่เดือนมิ.ย ประจำเดือนเราไม่มาเลยตั้งแต่ก.ค ถึง ธ.ค ค่ะ) คือช่วงระยะที่หยุดฉีดแล้วไม่มีประจำเดือนนี่เหมือนฝันเลยค่ะ สบายมาก คือถ้าเที่ยวก็เที่ยวได้เต็มที่แต่เราแทบไม่ได้ไปไหนเลยค่ะเพราะน้องโควิด แต่พอเริ่มเข้าสู่เดือนม.ค 64 มา ขอบอกเลยว่านรกสุดๆ เหมือนร่างกายเรามันอัดอั้นมานาน ประจำเดือนเรามาแบบทะลุทะลวงมาก คือไม่ได้เยอะจนแบบต้องเปลี่ยนทุกชั่วโมงนะคะ แต่วันนึงก็มีเปลี่ยน3-4อันไม่รวมตอนกลางคืน แล้วเป็นแทบทุกวันค่ะ เป็นมาจนถึงเกือบๆกลางเดือนมี.ค แต่ในระหว่างที่เป็นยังพอมีหยุดไหลไปบ้างนะคะ จากปกติที่เราเป็นประจำเดือน3-4วันต่อเดือน แต่พอมาถึงช่วงปรับตัว กลางเป็นเราเปผ้นประตำเดือนแทบทุกวัน แต่จะหยุดไหลไป3-4วันแล้วมาเป็นใหม่ กลายเป็นสลับตำแหน่งกันแทน ช่วงระยะนี้ถึงแม้จะเป็นประจำเดือนหนัก แต่บอกเลยว่าเราไม่มีอาการปวดท้องเลยค่ะ คืออาการปวดท้องน้อย ปวดหน่วงๆ เราไม่มีเลยจริงๆ คือตกใจมากและดีใจไปพร้อมๆกัน เพราะตอนปวดนี่คือทรมาณมาก แต่ในข้อดีก็มีข้อเสีย เดี๋ยวเราจะจำแนกมาเป็นข้อๆให้ดูค่ะ

- เราเป็นปจด.ทุกวันประมาณเกือบ3 เดือน ก่อนที่ปจด.จะเริ่มปกติประมาณปลายเดือนมี.ค ค่ะ(เราเป็นต่อเนื่องมาตั้งแต่ม.ค จนถึงประมาณวันที่12-13มี.ค แล้วมันก็หายไป แล้วก็มาเป็นอีกที25มี.ค แต่รอบหลังนี้เป็นแค่4-5 วันเท่านั้น พอมาเดือนเม.ย ปจด.ก็คือปกติแล้วคือมา3วันโดยประมาณ

-เราไม่มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด คือเป็นแบบสบายมากๆ เพิ่งได้รู้ถึงความรู้สึกของผู้หญิงที่ไม่ปวดท้องประจำเดือนเป็นครั้งแรกค่ะ แต่พอเริ่มผ่านไปซักประมาณเดือนมิถุนายนก็เริ่มมีอาการหน่วงเล็กน้อยค่ะ ปวดท้องนิดๆ ปวดเมื่อยเนื้อตัว แต่ถ้าเทียบกับก่อนฉีดรักษานี่ การปวดในตอนนี้ถือว่าเบามากๆค่ะ

-สิว!!! เราเริ่มมีสิวขึ้นที่คางค่ะ แต่ที่อื่นไม่เป็นเลย นอกจากคางแล้วลากไปตามกรามด้วย เป็นไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อย แถมเป็นเรื้อรัง ไม่หายซักที พอจะยุบๆ ก็ดันขึ้นมาซ้ำที่เดิมอีก พอไปอ่านตำแหน่งสิวก็พบว่าเป็นความผิดปกติของรับบต่อมไร้ท่อ ฮอร์โมน และระบบการย่อยค่ะ(เรามีภาวะเหมือนกรดไหลย้อนแต่ยังไม่แสบร้อนกลางอกค่ะ เป็นตอนช่วงฉีดยาคุมพอดี ไม่รู้เกี่ยวกันไหม) แต่สีหน้าไม่หมองแล้วนะคะ เริ่มมีใสๆเลือดฝาดมาบ้าง พอมาช่วงนี้(ส.ค.) สิวก็เริ่มหมดไปค่ะ

-น้ำหนักเริ่มลงเรื่อยๆค่ะ คือเราจะชอบเวท เล่นกล้ามแขนกล้ามท้อง แต่ไม่ได้สายออกกำลังกายจ๋าขนาดนั้น เราอาศัยเล่นน้อยๆแต่เล่นเท่าที่นึกได้ค่ะ ไม่ได้มีสินัยอะไรขนาดนั้น สังเกตเห็นได้ชัดว่าหน้าท้องเริ่มยุบลง น้ำหนักลดลงด้วย แต่ไม่ได้ลดลงตั้งแต่เดือนม.ค ที่ประจำเดือนเริ่มมานะคะ เราเริ่มมาลงช่วงเดือนเม.ยนี่แหละค่ะ ไหลเหมือนน้ำเลย จาก64.8 ตอนนี้เหลือ61.6 ค่ะ แต่ไม่ได้ลดแบบซูบนะคะ พอมาถึงเดือนสิงหาคมเราเหลือประมาณ 58 ค่ะ

-ทานข้าวได้ไม่เยอะ คือไม่ได้กินอร่อยเหมือนตอนฉีดค่ะ พยาบาลบอกว่าเวลาฉีดยาคุมนี่คือจะทานอาหารอร่อยมาก อะไรก็อร่อยไปหมด มีผลต่อความอยากอาหารค่ะ แต่พอหยุดฉีดก็เหมือนกลับมาทานเท่าเดิมค่อนไปทางน้อยลง

-ช็อกโกแลตซีสต์เรายุบลงค่ะ เราไปตรวจมาประมาณปลายเดือนมีนาคมโดยอัลตร้าซาวด์หน้าท้อง แต่ไม่ได้ยุบมาก แค่0.6ซม.ค่ะ แต่ก็ถือเป็นข่าวดี

เราเคยไปอ่านเจอในเพจหมอนอกกะลา เขาแนะนำว่าให้งดปัจจัยเสี่ยงทั้งหลาย เช่นนมวัว น้ำเต้าหู้ ถั่วเหลือง และพยายามทานเมล็ดฟักทองให้ได้วันเว้นวัน เราเลยทานเมล็ดฟักทองของฟลาวเวอร์ฟู้ด1ห่อ จะพยายามทานให้ได้วันเว้นวันเพราะไม่ค่อยชอบกลิ่นค่ะ ก็ไม่รู้ว่ามันจะช่วยมั้ยแต่ก็ลองทานไปก่อน ก็พยายามลองหลายทางค่ะ เพราะการฉีดยาคุมDMPA สำหรับเราถึงแม้จะช่วยให้เราไม่ปวดท้องประจำเดือน(ในช่วงระยะเวลานี้ แต่ในอนาคตไม่รู้จะปวดไหม) แต่เรามีความรู้สึกว่าการปล่อยให้รับบร่างกายเป็นไปตามธรรมชาติก็ดีที่สุดค่ะ การฉีดยาคุมDMPA นี่คือเหมือนทำให้ระบบร่างกายเรารวนมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนะคะ

สำหรับค่ารักษานะคะ ถ้าไม่นับค่าอัลตร้าซาวด์ที่เราซาวด์ปีละครั้ง การฉีดยาคุมDMPA เพื่อรักษาซีสต์เราว่าเป็นอะไรที่ประหยัดมากค่ะ เราไปฉีดเข็มนึงไม่กี่บาท คือถือแบงก์ร้อยไปมีทอนอะค่ะ แถมฉีดแค่3เดือนครั้ง แต่ทั้งนี้ก็อาจจะต้องยอมรับผลข้างเคียงที่ตามมา ซึ่งอาจจะแตกต่างกันแล้วแต่บุคคลค่ะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาหนทางรักษาช็อกโกแลตซีสต์นะคะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว Ener-g แบบขวด วิตามินแบบน้ำ อีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคนที่อ่อนเพลีย

ประสบการณ์ทำงานสตาร์บัคส์

รีวิวหมอนสุขภาพ หมอนสลบเหมือด Chowa ที่การันตีว่าหลับฝันดีไม่ปวดคอ จริงหรือไม่ มาดูกัน