วิธีการรักษาต่อมบาร์โธลินอักเสบ


ตอนนั้นอาการของเพื่อนเราคือต่อมบาร์โธลินเริ่มอักเสบในระดับเบื้องต้นค่ะ ซึ่งพอไปพบแพทย์แล้วแพทย์ก็จะให้ยารักษาต่อมบาร์โธลินอักเสบมา 2 ตัว ซึ่งทั้ง 2 ตัวเป็นยาฆ่าเชื้อทั้งหมดนะคะ อ้อ เพื่อนเราไม่ได้ต้องทำการกรีดหนองหรือผ่าตัดแต่อย่างใดนะคะ แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังต้องไปให้หมอตรวจอยู่ดีค่ะ อาการของเพื่อนเราคือเริ่มจากต่อมบาร์โธลินปูดขึ้นมาเหมือนสิวค่ะ

แต่เนื่องจากตอนนั้นนางเป็นประจำเดือนแทบทุกวันเพราะฉีดยาคุมเพื่อรักษาซีสต์ และต้องใส่แคร์ฟรี(แผ่นอนามัย)ตลอดเพราะเนื่องจากเลือดไหลกระปริดกระปรอยเลยไม่ต้องถึงขนาดใส่ผ้าอนามัยแบบใหญ่ๆ และเหมือนกับว่าใส่แล้วเปลี่ยนไม่ค่อยบ่อยค่ะ จึงทำให้ตัวแผ่นอนามัยมันเสียดสีกับจุดที่มันปูดออกมาจนมันเริ่มบวมขึ้นและมีอาการปวดเล็กน้อย ด้วยความที่เพื่อนก็ไม่อยากไปหาหมอ อะไรที่ในเน็ตว่าหายนางก็ทำตามหมดเลย ไม่ว่าจะแช่น้ำอุ่นไม่ใส่กางเกงในตอนนอน ไม่ใส่กางเกงฟิตๆ แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังปูดขึ้นจนต้องไปหาหมอ แต่ถึงแม้จะมีอาการปวดบวมแต่หมอก็ยังไม่อยากกรีดหรือผ่าตัด เพราะการกรีดหรือผ่าตัดมันก็มีความเสี่ยงที่จะไปโดนเส้นประสาทเล็กๆ และเพื่อนเราก็ไม่อยากกรีดด้วย คุณหมอจึงให้ยามา 2 ตัวอย่างที่เกริ่นไว้ด้านบนคือยาที่มีชื่อว่า

-Dicloxacilin 500 mg
-Metronidazole 200 mg

โดยคุณหมอให้ยาทั้งสองตัวนี้มาทานเป็ยเวลา 1 อาทิตย์และนัดดูอาการหลังจากยาหมด ซึ่งเรามีเพื่อนอีกคนที่เป็นบุรุษพยาบาลบอกมาว่ายาสองตัวนี้แรงมาก แถมระคายกระเพาะสุดๆ เพราะงั้นแนะนำว่าใครที่เป็นอย่าไปหาซื้อทานเองนะคะ ไปพบแพทย์แล้วให้แพทย์สั่งยาจะดีกว่าค่ะ เพื่อนเรากินไปได้ซักประมาณ 5 วัน ขอบอกเลยว่าเป็น 5 วันที่ทรมาณมากเพราะนางทำอะไรไม่สะดวกเลย แทบจะยืนได้อย่างเดียว จะนั่งจะเดินก็ลำบากมาก สบายหน่อยก็ตอนนอนเพราะไม่ต้องกระทบอะไร ยิ่งวันที่ก่อนมันจะบวมแบบสุดๆนางถึงกัลต้องหยุดงานแล้วขอให้เราไปหาหมอเป็นเพื่อนเลยเพราะนางปวดไม่ไหวแล้ว แต่นางก็ยังทนแค่ให้เรามาเฝ้าที่บ้านเฉยๆ(คอยช่วยหยิบของ ซื้อข้าวให้ ฯลฯ) จนกระทั่งเที่ยงๆของวันถัดมา เพื่อนเราก็บอกว่าตอนนอนอยู่รู้สึกเหมือนมีอะไรไหลออกมา เลยเข้าไปดูในห้องน้ำปรากฎว่าหนองแตกจ้า นางก็กัดฟันรีดหนองออกมา แต่นางไม่กล้าใช้มือบีบเพราะกลัวมือสกปรกแล้วเชื้อโรคจะเข้าไปอีก ก็เลยเอาคอตตอนบัตมาเค้นให้ออกแทน พอหนองออกแล้ว(ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเอาหนองออกหมดมั้ย) มันก็หายปวดไปมาก แต่ก้อนที่บวมก็ยังเป็นไตๆอยู่แต่ยุบลงกว่าตอนกลัดหนองมาก  คราวนี้เริ่มเดินเหินได้สะดวกและก็ขอให้เราไปเป็นเพื่อนหาหมออีกครั้งนึงหลังจากยาหมด(ถึงแม้มันจะหายปวดแล้วแต่ยาฆ่าเชื้อที่หมอให้มามันก็กินจนหมดและครบทุกมื้ออย่างเคร่งครัด)

เมื่อไปหาหมอตามนัดอีกครั้งหมอก็บอกว่าเพื่อนเราโชคดีมากที่ไม่ต้องกรีดหรือผ่า ส่วนยาที่หมดไปหมอได้ให้ตัว Dicloxacilin 500 mg มาทานเพิ่มอีก 5 วัน และให้ยาทามาด้วย เป็นยาทาที่่ชื่อว่า Fucidine 5 gm หมอให้เหตุผลว่าต่อมบาร์โธลินที่บวมนี้ก็เหมือนกับสิวที่มีการอักเสบ ถ้ามันยุบลงหรือยังไม่ใหญ่มากสามารถหายาทาแก้อักเสบสิวมาใช้ได้ แต่ตัวที่หมอให้มาดีหน่อยตรงที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ค่ะ จึงมั่นใจว่าไม่มีอาการระคายเคืองแล้ว เพื่อนเราก็ใช้อย่างมีวินัยมากจนตอนนี้ก้อนยุบเกือบสนิทแล้ว แทบคลำไม่เจออะไรแล้ว ในขณะที่ก่อนหน้านั้นเราไปอ่านกระทู้บนเน็ตบางกระทู้บางคนบอกว่าไปกรีดหนองออกแล้วยังเป็นไตแถมช้ำเลือดช้ำหนองอีก น่ากลัวสุดๆ ก็จากที่เล่ามาขอสรุปวิธีการที่เพื่อนเราใช้นะคะ

1.ไปพบแพทย์
ข้อนี้อาจจะขัดใจสาวๆหลายคนที่งานยุ่ง แต่ขอบอกว่าไปเถอะค่ะ ถ้าเป็นอะไรจะได้รักษาได้ทัน เพื่อนเราไปเจอหมอผู้หญิง ใจดีมากๆค่ะ ไม่ดุ

2.ทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง
สำคัญมากค่ะข้อนี้เพราะมันเป็นยาฆ่าเชื้อ จะมากินๆหยุดๆไม่ได้ ไม่งั้นเชื้อมันจะดื้อยาและเป็นสาเหตุให้เกิดการเป็นซ้ำได้บ่อยๆค่ะ

3.พักผ่อนให้เพียงพอ
ปกติเพื่อนเราเป้นคนนอนดึกมาก คือหลังเที่ยงคืนแทบทุกวัน พอเป็นแบบนี้แล้วมันเลยเริ่มปรับเวลานอนตัวเองมาทีละนิด เช่น ห้าทุ่มครึ่ง ห้าทุ่ม เป็นต้น

4.งดของหวาน
อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ แต่เราว่ามันมีที่มา เพื่อนเราบอกว่าน้ำตาลเป็นตัวอันตราย เป็นตัวขัดขวางไม่ให้ร่างกายเราซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หรือพอมีอาการอักเสบขึ้นมาถ้าทานหวานมากๆจะทำให้แผลหายช้า ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงคนเป็นเบาหวานที่เวลาเป็นแผลแล้วจะหายช้าค่ะ เพื่อนเรางดหวานแทบจะทั้งช่วงเวลาที่ยังเป็นก้อนอยู่เลยค่ะ ต่ก็อาจมีเหน็บๆบ้างนิดหน่อย เช่นชานมไข่มุกก็กินแค่อึกเดียวที่เหลือให้เราหมด อะไรแบบนี้....เสร็จเรา 555

บทต่อไปเราจะมาพูดถึงวิธีการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำกันนะคะ

หัวข้ออื่นๆ
-ต่อมบาร์โธลินอักเสบ มีอาการอย่างไรบ้าง
-สาเหตุของต่อมบาร์โธลินอักเสบนั้นมีอะไรบ้าง
-วิธีดูแลตัวเองในขณะที่ต่อมบาร์โธลินอักเสบ
-วิธีป้องกันเบื้องต้นไม่ให้ต่อมบาร์โธลินกลับมาอักเสบอีก
-จุดเริ่มต้นของการเขียนเกี่ยวกับต่อมบาร์โธลิน


ความคิดเห็น

  1. อยากทราบว่าหาหมอโรงพยาบาลไหนค่ะ ตอนนี้เป็นต่อมบาร์โธลินอักเสบอยู่ค่ะ เจ็บมาก อยากรักษาโดยที่ไม่ต้องผ่า เพราะเคยผ่ามาหลายรอบแล้วยังกลัวเจ็บอยุ่เลยค่ะ รบกวนตอบกลับด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะที่ตอบช้ามาก ตอนนั้นเราพาเพื่อนเราไปนพรัตน์ค่ะ เป็นคลินิคพิเศษพบกับหมอผู้หญิงผมยาวค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เราจำชื่อคุณหมอไม่ได้ จำได้ว่านามสกุลจะ ณ อยุธยาหรืออะไรซักอย่างนี่แหละค่ะ เพราะจำได้ว่าตอนรอคุยกับเพื่อนเรื่องนามสกุลหมอค่ะ ตอนนั้นเพื่อนเราเป็นหนักมาก คือเดินแทบไม่ได้เลยค่ะ ต้องให้เราช่วยพยุงขึ้นรถพาไป เราเห็นเพื่อนเป็นแล้วสงสารมาก คือเพื่อนก็อายค่ะแต่ด้วยความเจ็บตอนนั้นนางเลยลบความอายออกไป ตอนคุณหมอให้คำแนะนำเราก็อยู่ด้วยค่ะ คุณหมอบอกว่าเวลานอนไม่ต้องใส่กางเกง/กางเกงในก็ได้นะคะ ควรปล่อยให้โล่งๆไปเลยค่ะ ที่มันปวดตอนนี้อาจจะเป็นเพราะกลัดหนองอยู่ค่ะ ย่งใส่กางเกง/กางเกงใน จะไปทำให้มันเสียดสีและอักเสบได้ค่ะ และพยายามอย่าไปเค้นมันนะคะ เพื่อนเราบอกว่าตอนแรกๆมันขึ้นมาเหมือนตุ่มมดกันค่ะแต่ไม่คัน ด้วยความซนนึกว่าสิวนางก็เค้นบีบเลยจ้า แล้วเหมือนมันอักเสบค่ะ พูดแล้วยังหวาดเสียวเเทนเพื่อน แกกล้าบีบได้ยังง๊ายยย 5555

      สู้ๆนะคะ ขอให้หายไวๆ ของเพื่อนเราคุณหมอแค่ให้ยามาค่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ฉีดยาหรือผ่าเลยค่ะ เพื่อนเรากินยาเคร่งครัดตามหมอสั่งมาก คือไม่ให้ขาดซักมื้อเลยค่ะ ซักพักเหมือนเจ้าตุ่มนี่มันสุก เหมือนสิวอะค่ะ เพื่อนเลยกลั้นใจบีบเองเลย(จริงๆไม่แนะนำนะคะ เสี่ยงติดเชื้อ) พอหนองแตกเท่านั้นแหละค่ะ เพื่อนบอกเหมือนเกิดใหม่เลย

      ลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว Ener-g แบบขวด วิตามินแบบน้ำ อีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคนที่อ่อนเพลีย

ประสบการณ์ทำงานสตาร์บัคส์

รีวิวหมอนสุขภาพ หมอนสลบเหมือด Chowa ที่การันตีว่าหลับฝันดีไม่ปวดคอ จริงหรือไม่ มาดูกัน