จุดเริ่มต้นของการเขียนเกี่ยวกับต่อมบาร์โธลิน
ขออนุญาตเล่าเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบทความนี้นิดนึงนะคะ ที่เราสนใจและอยากแชร์สาระเกี่ยวกับต่อมบาร์โธลินนั้นเพราะเราเชื่อว่าผู้หญิงหลายๆคนต้องประสบกับปัญหานี้หลายคนแน่นอนค่ะ(ในสิบคนเราว่าต้องมีคนเคยเป็นไม่ก็3-5คน) เนื่องด้วยวิธีการใช้ชีวิตที่เร่งรีบของคนในยุคปัจจุบันด้วยอาจจะทำให้บางคนพอเป็นโรคนี้แล้วอาจจะอายไม่กล้าไปพบหมอหรืออาจจะทำงานยุ่งมากจนไม่มีเวลาไปหาหมอและรอจนอาการเริ่มเป็นเยอะ
ซึ่งโรคนี้จริงๆไม่อยากเรียกว่าโรคเลยค่ะ แต่เพื่อให้พิมพ์สั้นๆ และโรคนี้จริงๆแล้วไม่ได้มีอันตรายจนถึงชีวิตนะคะ แต่มันสร้างความรำคาญให้กับการใช้ชีวิตประจำวันได้มากพอตัวเลยละค่ะ ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเราไม่ใช่หมอ แต่เพียงแค่เป็นคนๆนึงที่มีคนรอบตัวหลายคนเป็นและทรมาณจากโรคนี้กันเยอะค่ะ เลยอยากจะนำประสบการณ์หลายๆอย่างเกี่ยวกับเจ้าต่อมบาร์โธลินนี้มาแชร์ให้หลายๆคนที่กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ เพราะจากที่เราเคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับต่อมบาร์โธลินนี้ก็เจอแต่ข้อมูลซ้ำๆ หรือบางทีเข้าไปในเว็บบอร์ดเจอแต่คอมเมนต์บอกว่าต้องผ่าต้องกรีด ก็รู้สึกกลัวแทนคนที่กำลังเป็นอยู่ ซึ่งด้วยความที่เราต้องหาข้อมูลให้กับคนใกล้ตัว และเมื่อคนใกล้ตัวรักษาแล้วอาการดีขึ้นก็เลยอยากนำมาแชร์กันค่ะ ว่ามันมีทางเลือกมากกว่าการกรีดหรือผ่านะ และสำหรับเนื้อหาทั้งหมดเราได้ทำการขออนุญาตเจ้าตัวแล้วค่ะ
ต่อมบาร์โธลิน คืออะไร
อันดับแรกเรามารู้จักเจ้าต่อมนี้กันก่อนนะคะ ต่อมบาร์โธลิน (Bartholin's gland) เป็นต่อมๆนึงที่อยู่บริเวณแคมใหญ่และมีทั้งสองข้างค่ะ หน้าที่ของมันคือจะทำหน้าที่ผลิตน้ำหล่อลื่น หรือเมือกเมื่อมีอารมณ์ทางเพศค่ะ ในต่อมนี้จะมีท่อยาวประมาณ 2 ซม. เพื่อคอยส่งน้ำหล่อลื่นเข้าไปในบริเวณช่องคลอดค่ะ ซึ่งต่อมนี้จะไม่สามารถคลำได้ด้วยมือเปล่าค่ะเพราะมันเล็กมาก ขนาดเท่าเมล็ดถั่วเอง ถ้าใครสนใจรูปประกอบแนะนำให้ลองหาดูบน Google นะคะ หรือถ้าอยากได้แบบภาพเคลื่อนไหว(เป็นการผ่าตัดเลย) ให้ลองพิมพ์คำว่า Bartholin's gland บน Youtube ได้เลย ทีนี้หากท่อของต่อมมีอาการอุดตันก็อาจทำให้เมือกที่ถูกสร้างมานั้นอุดตันและเกิดเป็นก้อนถุงน้ำได้ค่ะ ซึ่งในบล็อกนี้เราจะเน้นอาการของต่อมบาร์โธลินอักเสบเท่านั้นนะคะ หากเป็นพวกเนื้องอกหรือเนื้อร้ายเราจะไม่ได้พูดถึงเพราะเปอร์เซ็นต์ที่พบเจอมันน้อยมากค่ะ
ในบทหน้าเราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับอาการของต่อมบาร์โธลินอักเสบกันนะคะว่าเป็นยังไง
หัวข้ออื่นๆ
-ต่อมบาร์โธลินอักเสบ มีอาการอย่างไรบ้าง
-สาเหตุของต่อมบาร์โธลินอักเสบนั้นมีอะไรบ้าง
-วิธีการรักษาต่อมบาร์โธลินอักเสบ
-วิธีดูแลตัวเองในขณะที่ต่อมบาร์โธลินอักเสบ
-วิธีป้องกันเบื้องต้นไม่ให้ต่อมบาร์โธลินกลับมาอักเสบอีก
ซึ่งโรคนี้จริงๆไม่อยากเรียกว่าโรคเลยค่ะ แต่เพื่อให้พิมพ์สั้นๆ และโรคนี้จริงๆแล้วไม่ได้มีอันตรายจนถึงชีวิตนะคะ แต่มันสร้างความรำคาญให้กับการใช้ชีวิตประจำวันได้มากพอตัวเลยละค่ะ ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเราไม่ใช่หมอ แต่เพียงแค่เป็นคนๆนึงที่มีคนรอบตัวหลายคนเป็นและทรมาณจากโรคนี้กันเยอะค่ะ เลยอยากจะนำประสบการณ์หลายๆอย่างเกี่ยวกับเจ้าต่อมบาร์โธลินนี้มาแชร์ให้หลายๆคนที่กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ เพราะจากที่เราเคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับต่อมบาร์โธลินนี้ก็เจอแต่ข้อมูลซ้ำๆ หรือบางทีเข้าไปในเว็บบอร์ดเจอแต่คอมเมนต์บอกว่าต้องผ่าต้องกรีด ก็รู้สึกกลัวแทนคนที่กำลังเป็นอยู่ ซึ่งด้วยความที่เราต้องหาข้อมูลให้กับคนใกล้ตัว และเมื่อคนใกล้ตัวรักษาแล้วอาการดีขึ้นก็เลยอยากนำมาแชร์กันค่ะ ว่ามันมีทางเลือกมากกว่าการกรีดหรือผ่านะ และสำหรับเนื้อหาทั้งหมดเราได้ทำการขออนุญาตเจ้าตัวแล้วค่ะ
ต่อมบาร์โธลิน คืออะไร
อันดับแรกเรามารู้จักเจ้าต่อมนี้กันก่อนนะคะ ต่อมบาร์โธลิน (Bartholin's gland) เป็นต่อมๆนึงที่อยู่บริเวณแคมใหญ่และมีทั้งสองข้างค่ะ หน้าที่ของมันคือจะทำหน้าที่ผลิตน้ำหล่อลื่น หรือเมือกเมื่อมีอารมณ์ทางเพศค่ะ ในต่อมนี้จะมีท่อยาวประมาณ 2 ซม. เพื่อคอยส่งน้ำหล่อลื่นเข้าไปในบริเวณช่องคลอดค่ะ ซึ่งต่อมนี้จะไม่สามารถคลำได้ด้วยมือเปล่าค่ะเพราะมันเล็กมาก ขนาดเท่าเมล็ดถั่วเอง ถ้าใครสนใจรูปประกอบแนะนำให้ลองหาดูบน Google นะคะ หรือถ้าอยากได้แบบภาพเคลื่อนไหว(เป็นการผ่าตัดเลย) ให้ลองพิมพ์คำว่า Bartholin's gland บน Youtube ได้เลย ทีนี้หากท่อของต่อมมีอาการอุดตันก็อาจทำให้เมือกที่ถูกสร้างมานั้นอุดตันและเกิดเป็นก้อนถุงน้ำได้ค่ะ ซึ่งในบล็อกนี้เราจะเน้นอาการของต่อมบาร์โธลินอักเสบเท่านั้นนะคะ หากเป็นพวกเนื้องอกหรือเนื้อร้ายเราจะไม่ได้พูดถึงเพราะเปอร์เซ็นต์ที่พบเจอมันน้อยมากค่ะ
ในบทหน้าเราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับอาการของต่อมบาร์โธลินอักเสบกันนะคะว่าเป็นยังไง
หัวข้ออื่นๆ
-ต่อมบาร์โธลินอักเสบ มีอาการอย่างไรบ้าง
-สาเหตุของต่อมบาร์โธลินอักเสบนั้นมีอะไรบ้าง
-วิธีการรักษาต่อมบาร์โธลินอักเสบ
-วิธีดูแลตัวเองในขณะที่ต่อมบาร์โธลินอักเสบ
-วิธีป้องกันเบื้องต้นไม่ให้ต่อมบาร์โธลินกลับมาอักเสบอีก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น